วันพฤหัสบดีที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2554

004: A Sandwich History

...ผมเชื่อว่าในโลกนี้ คงจะมีน้อยคนนะครับที่ไม่รู้จักอาหารขึ้นชื่ออย่างแซนด์วิช...ใช่แล้วครับ!! แซนด์วิช ที่ทำมาจากขนมปังสองชิ้นหรือมากกว่านั้นประกบกัน แล้วสอดใส้ด้วยเนื้อสัตว์ ทูน่า แฮม ชีส หรือสลัด หรือผักนั่นล่ะครับ เคยสงสัยมั้ยว่าที่มาของมันเป็นอย่างไร และทำไมถึงเรียกมันว่าแซนด์วิช?? วันนี้ผมเลยมีเรื่องเล่าขำๆเกี่ยวกับแซนด์วิชมาฝากครับ...
แซนด์วิชโฮลวีท สอดไส้ด้วยแฮมชีสและผัก
อันที่จริง แซนด์วิชนั้นเป็นอาหารที่มีมาตั้งนานมากแล้วครับ เกิดขึ้นตั้งแต่สมัยยุคหินใหม่ (Neolithic)โน่นแน่ะ (นานจริงๆด้วย!!) เริ่มแรกเดิมทีนั้นเป็นขนมปังที่ไม่ได้ขึ้นฟูเหมือนอย่างทุกวันนี้(เรียกว่าMatzah) โดยสไลด์บางๆสอดไส้ด้วยสมุนไพรและเนื้อแกะที่ถูกบูชายัญในเทศกาลปัสกา(หรือเทศกาลพาสโอเวอร์)ของชาวยิวโบราณ


ตอนแรกจะเรียกอาหารประเภทนี้ว่าอะไรนั้น ก็หาได้มีใครทราบอย่างชัดเจนไม่ แต่ที่มาของชื่อ "แซนด์วิช" อย่างทุกวันนี้มันมีที่มาครับ...

จอห์น มองตากิว
เอิร์ลที่4 แห่งแซนด์วิช
>> สองร้อยกว่าปีที่แล้ว มีขุนนางคนหนึ่งในมณฑลเคนท์ของอังกฤษ ท่านผู้นี้มีนามว่า "จอห์น มองตากิว เอิร์ลคนที่4 แห่งแซนด์วิช"...ใช่แล้วครับ ในเคนท์นั้นมีเมืองหนึ่งชื่อว่าแซนด์วิช ท่านเอิร์ลผู้นี้ชอบเล่นไพ่เป็นชีวิตจิตใจ โดยเฉพาะเกมไพ่ที่เรียกว่า คริบเบจ (Cribbage) เอามากๆ ถึงขนาดไม่ยอมลุกออกไปไหนเลยเวลาเล่นไพ่ แม้แต่อาหารก็ไม่ยอมลุกไปกิน ท่านจึงสั่งให้ผู้รับใช้ เอาขนมปังสไลด์บางๆประกบกัน สอดไส้เนื้อและผัก รับประทานไปด้วยขณะเล่น พอใครนึกถึงเอิร์ล ออฟ แซนด์วิช ก็ต้องคิดถึงไอ้ขนมปังที่ท่านชอบทาน จนกลายเป็นที่มาของชื่อ " แซนด์วิช" นี่ล่ะครับ

**นอกจากนี้ หากคุณเดินทางไปอเมริกา อาจจะเห็นคนเอาป้ายโฆษณาห้อยข้างห้อยหลัง เดินไปมาตมถนนที่มีคนพลุกพล่าน...ป้ายโฆณานี้ฝรั่งเขาเรียกกันว่า "Sandwich-board" ส่วนคนที่แขวนป้ายนี้ก็้เรียกว่า "Sandwich-man" ครับ **

...เล่าไปเล่ามา ตอนนี้ผมชักเริ่มจะหิวเสียแล้วสิ ไปหาแซนด์วิชอร่อยๆทานกันดีกว่าครับ :=]


iWhitmore

ขอบคุณหนังสือที่จุดประกายเรื่องนี้แก่ผู้เขียน: เปิดฟ้าภาษาโลก เล่มที่1 โดย คุณนิติภูมิ นวรัตน์
ที่มาของข้อมูลบางส่วนจาก: http://en.wikipedia.org/wiki/Sandwich
เข้าไปดูรูปท่านเอิร์ลแบบเต็มๆใน: http://en.wikipedia.org/wiki/File:John_Montagu,_4th_Earl_of_Sandwich.jpg

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น